จาก "รูปที่มีทุกบ้าน" สู่การชุมนุมปกป้องสถาบันฯ ที่สวนลุมพินี

มวลชน "เสื้อเหลือง"

ที่มาของภาพ, Ratchaphon Riansiri/BBC Thai

  • Author, ธันยพร บัวทอง
  • Role, ผู้สื่อข่าวบีบีซีไทย

การรวมตัวของกลุ่มประชาชนสวม "เสื้อเหลือง" เพื่อแสดงจุดยืนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ในรอบสัปดาห์ที่บริเวณลานพระบรมรูป รัชกาลที่ 6 สวนลุมพินี ภายหลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงขอบใจชายที่ชูพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง ร.9 ไว้เหนือหัว ระหว่างการชุมนุมกลุ่ม "ราษฎร" เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมา

การนัดหมายที่ลานพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 ถูกประกาศบนเฟซบุ๊กของนางทยา ทีปสุวรรณ อดีตแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อปี 2556-2557 ที่ใช้ชื่อว่า "คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือ กปปส." และภรรยาของนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา

ประกาศดังกล่าวมีข้อความเชิญชวนให้ "คนไทยใส่เสื้อเหลือง ถือพระบรมรูปในหลวง ร.9 และ ร.10" เพื่อแสดงจุดยินปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พรมหากษัตริย์

การรวมตัวครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 3 ของมวลชนฝ่ายปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ออกมาแสดงจุดยืน นับจากคืนวันที่ 25 ต.ค. ที่มีการรวมตัวที่บริเวณหน้ารัฐสภา ถัดมาคือเมื่อวานนี้ (26 ต.ค.) ที่บริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนี และในวันนี้ (27 ต.ค.) ที่สวนลุมพินี และยังมีการนัดหมายผ่านเฟซบุ๊กของนายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ นักแสดงและอาสาชื่อดัง นัดหมายประชาชนสวมเสื้อเหลืองกับชมพู แสดงพลังปกป้องสถาบันฯ ที่วัดพระแก้ว วันที่ 1 พ.ย. นี้

มวลชน "เสื้อเหลือง"

ที่มาของภาพ, Ratchaphon Riansiri/BBC Thai

การรวมตัวของประชาชนกลุ่มนี้มีขึ้นหลังจากกลุ่ม "ราษฎร" ยื่นหนังสือผ่านสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนี ให้ทางการเยอรมันตรวจสอบการใช้พระราชอำนาจจากต่างแดน ตลอดจนการประทับอยู่ในเยอรมนีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10

มวลชนเสื้อเหลืองรวมตัวที่สวนลุมพินีตั้งแต่เวลา 17.00 น. ผู้ชุมนุมเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ เป็นหลายร้อยคน พวกเขาร่วมกันเปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ ๆ" เป็นระยะพร้อมกับชูพระบรมฉายาลักษณ์ทั้งของในหลวงรัชกาลที่ 9 รัชกาลที่ 10 และพระบรมฉายาลักษณ์คู่ของรัชกาลที่ 10 และพระราชินี

ธงชาติและธงประจำพระองค์สีเหลืองถูกโบกปลิวไสวในที่ชุมนุม ขณะที่บรรดาอดีตแกนนำ กปปส. สลับกันขึ้นปราศรัย เช่น นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงษ์ นายสาธิต เซกัล นอกจากนี้ยังมี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่ม "ไทยภักดี"

จากรูปที่มีทุกบ้าน สู่สวนลุมพินีของพลังมวลชน "เสื้อเหลือง"

ผู้ชุมนุมในชุดเสื้อเหลือง อันเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่มีความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์มาตั้งแต่รัชสมัย รัชกาลที่ 9 พูดในทำนองเดียวกันถึงเหตุผลของการออกมาร่วมชุมนุมในวันนี้ เพราะยอมรับไม่ได้กับการชุมนุมมีการ "จาบจ้วง" พระมหากษัตริย์

ภาพถ่ายโปสการ์ด ร.9

หญิงวัย 63 ปี ที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ-สกุล จากฝั่งธนบุรี ถือพระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวงรัชกาลที่ 9 กล่าวถึงภาพถ่ายขนาดโปสการ์การ์ดที่เธอถือว่า หากแผ่นดินนี้ไม่มีพระมหากษัตริย์พระองค์นี้คนไทยจะอยู่อย่างไร โดยยกโครงการพระราชดำริกว่า 4,000 โครงการขึ้นมาเป็นเหตุผลที่เธอรักในหลวงรัชกาลที่ 9

เธอบอกว่ามาร่วมชุมนุมวันนี้เพื่อแสดงพลังปกป้องสถาบันฯ เพราะเห็นว่าการชุมนุมของคนรุ่นใหม่มีการจาบจ้วงที่ไม่อาจยอมรับได้ โดยเฉพาะข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันฯ ให้กลับมาอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ

"ทุกวันนี้พระองค์ท่านก็อยู่ใต้รัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ท่านไม่เคยออกมายุ่งการเมือง"

ผู้ชุมนุมเสื้อเหลืองถือโปสการ์ดรูปในหลวง ร.9

ที่มาของภาพ, Thanyaporn Buathong/BBC Thai

คำบรรยายภาพ, หญิงคนนี้ตั้งคำถามว่า หากแผ่นดินนี้ไม่มีในหลวงรัชกาลที่ 9 คนไทยจะอยู่อย่างไร

ส่วนข้อเสนอว่าด้วยการปฏิรูปการใช้งบประมาณของสถาบันกษัตริย์ เธอโต้แย้งกลุ่ม "ราษฎร" ว่า "ทุกวันนี้ท่านใช้เงินส่วนตัวเอามาบำรุงประชาชน มีเหตุการณ์อะไรก็ช่วยหมด" และเห็นว่าข้อเรียกร้องอื่น ๆ เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญสามารถทำได้แต่ไม่ควรแตะต้องในส่วนที่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์

ส่วนเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกกระทบจิตใจมากที่สุด คือ เหตุการณ์ที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีวานนี้ (26 ต.ค.) ที่ผู้ชุมนุมใช้ถ้อยคำเปรียบเทียบความสัมพันธ์ระหว่างพระมหากษัตริย์และรัฐบาลอย่างไม่เหมาะสมและถือเป็นการก้าวล่วง

ปฏิทิน ร.10

ปฏิทินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ ปี 2563 ที่แขวนไว้ใช้ดูที่บ้าน ถูกนำมาใช้ร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ ของหญิงวัย 62 ปี จากย่านวังบูรพา

"เห็นพระองค์ท่านทรงช่วยเหลืออะไรประชาชนอย่างเงียบ ๆ โดยที่ไม่ได้มีข่าวออกมา ท่านปิดทองหลังพระ โครงการของในหลวง ร.9 ท่านก็สานต่อทุกอย่าง เราก็รู้สึกซาบซึ้งที่พระองค์ท่านดำเนินรอยตาม และมอบหมายงานให้องคมนตรีทุกคนเดินหน้า พระองค์ท่านพยายามที่จะทำให้ชาวไทยเรา... (หยุดสะอื้น) เห็นทุกข์ของประชาชน ท่านก็ดูแลเหมือนตอนที่ในหลวง ร.9 ท่านยังอยู่"

แม้ว่าฝ่ายผู้ชุมนุมอีกฝั่งจะใช้คำว่า "ปฏิรูป" แต่หญิงเจ้าของธุรกิจส่วนตัวชาวกรุงเทพฯ ให้ความเห็นกับบีบีซีไทยว่า ข้อเรียกร้องต่าง ๆ เพิ่มระดับขึ้นเรื่อย ๆ จนเกินกว่าการปฏิรูปอย่างที่กล่าวอ้าง โดยเฉพาะข้อเสนอปฏิรูปสถาบันฯ ของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมที่ประกาศเมื่อวันที่ 10 ส.ค.

ปฏิทินที่มีพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 10

ที่มาของภาพ, Thanyaporn Buathong/BBC Thai

คำบรรยายภาพ, ปฏิทินรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ ปี 2563 ที่แขวนไว้ใช้ดูที่บ้าน ถูกนำมาใช้ร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ ของหญิงวัย 62 ปี จากย่านวังบูรพา

"ถ้าเขาจะออกมาเรียกร้องเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือการบริหารงานนายกฯ เราไม่คัดค้าน แสดงออกได้ แต่การที่เขาออกมามันไม่สุภาพ เรามองออกว่าจุดมุ่งหมายของเขาเกินกว่านั้นแล้ว"

ส่วนการที่กลุ่ม "ราษฎร" เรียกร้องให้รัฐบาลเยอรมนีตรวจสอบการใช้พระราชอำนาจและการประทับในเยอรมนีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น เธอบอกว่าแม้จะรับรู้ว่าในหลวงไม่ได้อยู่ในประเทศ แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องดังกล่าวเพราะเป็นการ "ไม่ให้เกียรติประมุขของประเทศตัวเอง"

ครอบครัว "มหิดล"

พระบรมฉายาลักษณ์ของราชสกุล "มหิดล" เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ยังทรงพระเยาว์ เป็นรูปที่ประภัสสร พานิช ชาว จ.อุทัยธานี วัย 54 ปี นำติดตัวจากบ้านพักย่านบางนามาที่สวนลุมพินีในวันนี้

"ภาพนี้เป็นภาพที่พ่อแม่เก็บไว้ ถ้าพ่ออยู่ก็ 90 ถ้าแม่อยู่ก็ 80 กว่า เราเลยนำมาเพื่อต้องการให้รู้ว่าครอบครัวและตระกูลเรา จงรักภักดีต่อสถาบัน และยอมพลีชีพเพื่อชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ด้วยใจจริง ๆ ค่ะ"

เธอบอกว่า ได้รับการปลูกฝังจากครอบครัวมาตั้งแต่เด็กว่า "เราจะต้องปกป้องและจงรักภักดี (ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์) ตลอดที่เรามีชีวิตอยู่"

"เรามาให้กำลังใจพระองค์ให้สู้กับคนที่หมิ่นและจาบจ้วง ให้รู้ว่าคนไทย 70 ล้านคน ยังอยู่ข้างในหลวง เราไม่เป็นกลาง แต่เราอยู่ข้างในหลวง" เธอย้ำ

หญิงชายคู่นี้มาร่วมชุมนุมพร้อมกับพระบรมฉายาลักษณ์ครอบครัว "มหิดล"

ที่มาของภาพ, Thanyaporn Buathong/BBC Thai

คำบรรยายภาพ, ประภัสสรมาร่วมชุมนุมพร้อมกับพระบรมฉายาลักษณ์ครอบครัว "มหิดล"

เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกตัวเองว่า "ราษฎร" ในแต่ละข้อ ทั้งการตรวจสอบการประทับอยู่ในเยอรมนีและ เหตุผลข้อมูลที่นำมาสู่ข้อเสนอปฏิรูปสถาบันฯ แต่ละข้อ ประภัสสรไม่มั่นใจว่า ข้อมูลเหล่านั้นเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ "ถ้าคุณเป็นคนไทยจะต้องปรึกษาหารือในเมืองไทย ต้องไม่หมิ่นเกียรติพระองค์ ส่วนเรื่องการใช้งบประมาณของสถาบัน ก่อนที่จะกล่าวร้าย คุณต้องรู้ความจริงก่อน แล้วทำไมไม่ไปตรวจสอบนักการเมืองที่เลวบ้าง" เธอตั้งคำถาม

"ฝ่ายพวกเราที่จงรักภักดีมีมากที่สุดในประเทศ"

นพ.วรงค์กล่าวว่าหลังจากเฝ้าดูผู้ชุมนุมอีกฝ่ายเคลื่อนไหว มวลชนเสื้อเหลืองต้องออกมาเพื่อแสดงพลังปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

"พวกเราออกมาให้อีกฝ่ายรู้ว่าฝ่ายพวกเราที่จงรักภักดีมีมากที่สุดในประเทศ" นพ.วรงค์กล่าวและยืนยันว่ามวลชนเสื้อเหลืองไม่มีความคิดที่จะปะทะ แต่ต้องการแสดงออกอย่างสันติ

ผู้จัดการชุมนุมในวันนี้ยังประกาศด้วยว่าจะนัดหมายมวลชนไปแสดงจุดยืนที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น และฝรั่งเศส เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของผู้ลี้ภัยการเมืองในประเทศเหล่านี้ โดยกล่าวหาว่าคนเหล่านี้มีการกระทำที่ "หมิ่นสถาบัน"

ในช่วงท้าย ผู้ชุมนุมได้ร่วมกันปฏิญาณตนเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ร้องเพลงสดุดีจอมราชา บทเพลงเฉลิมพระเกียรติ์ รัชกาลที่ 10 และเพลงสรรเสริญพระบารมีและยุติการรวมตัวในเวลา 18.30 น.

มวลชน "เสื้อเหลือง"

ที่มาของภาพ, Ratchaphon Riansiri/BBC Thai

มวลชน "เสื้อเหลือง"

ที่มาของภาพ, Ratchaphon Riansiri/BBC Thai

"อุ๊ หฤทัย" แสดงจุดยืนหน้าสถานทูตสหรัฐฯ เรียกร้องให้ "เคารพกิจการภายใน" ของไทย

มวลชนที่สวมเสื้อเหลืองจำนวนหนึ่งรวมตัวที่บริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ถนนวิทยุ ช่วงสายวันนี้ (27 ต.ค.) ตามการนัดหมายผ่านเฟซบุ๊กของ หฤทัย ม่วงบุญศรี หรือ อุ๊ ศิลปินนักร้อง หนึ่งในผู้ก่อตั้งกลุ่ม "ไทยภักดี"

หฤทัยกล่าวถึงเหตุที่ต้องมาที่สถานทูตสหรัฐฯ เพราะเชื่อว่ามีต่างประเทศอยู่เบื้องหลังการโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ กลุ่มของเธอจึงต้องการให้สหรัฐฯ เคารพในกิจการภายในของประเทศไทย

เธอบอกว่าที่ผ่านมาประเทศไทยและสหรัฐฯ มีสัมพันธไมตรีที่แน่นแฟ้น เป็นมิตรประเทศ อีกทั้งในหลวง รัชกาลที่ 9 ก็ประสูติที่นั่น แต่วันนี้เกิดความแตกแยกทางความคิดเป็นอย่างมาก เธอย้ำว่าหากเป็นเรื่องการเมืองไม่เป็นไร แต่ปัจจุบันกำลังมีการโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเชื่อว่ามีเบื้องหลังที่มาจากต่างประเทศ

"ความขัดแย้งทางการเมืองจะเป็นยังไงไม่สำคัญ แต่สถาบันพระมหากษัตริย์จะนำมาโยงกับการเมืองไม่ได้ ที่ผ่านมามีการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ และมีหลักฐานพิสูจน์แล้วว่าเป็นการปั่นกระแสจากนอกประเทศ จะให้ประเทศไทยเปรียบดั่งฮ่องกงไม่ได้ นี่ไม่ใช่ฮ่องกง" ผู้ก่อตั้งกลุ่ม "ไทยภักดี" กล่าว

อุ๊

ที่มาของภาพ, RACHAPHON RIANSIRI/BBC THAI

เธอเห็นว่าการนำสถาบันมาเกี่ยวโยงกับการเมือง โดยอ้างว่ารัฐประหารของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นการทำลายประชาธิปไตย โดยอ้างว่าพระมหากษัตริย์อยู่เบื้องหลังนั้นเป็นเรื่องบิดเบือน เธอยังแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการยื่นหนังสือผ่านสถานทูตเยอรมนีของกลุ่ม "ราษฎร" ด้วยว่า เป็นการ "ชักศึกเข้าบ้าน"

กลุ่มประชาชนที่เดินทางมาร่วมแสดงจุดยืนที่บริเวณหน้าสถานทูตสหรัฐฯ ยังได้แสดงความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน

"น่าสงสัยตรงที่ว่ามันเคยเกิดเหตุการณ์นี้ในฮ่องกง และท่านทูตที่ย้ายมาใหม่ก็มาจากฮ่องกง อาจจะไม่ได้ทำก็ได้ แต่เราก็สงสัยได้" ศาสตรา โตอ่อน อาชีพทนายความ บอกกับบีบีซีไทย เขาเชื่อด้วยว่าสถานการณ์ขณะนี้เป็นการทำสงครามไฮบริดจ์ ที่ใช้ข้อมูลยุยงปลุกปั่น ทำให้คนในชาติแตกแยก ซึ่งเป็นเรื่องที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีตผู้บัญชาการทหารบก เคยกล่าวไว้

ด้านเจ้าหน้าที่สถานทูตได้นำแถลงการณ์จากสถานทูตสหรัฐฯ ประจำไทย แจกต่อสื่อมวลชน มีเนื้อหาว่า รัฐบาลสหรัฐฯ มิได้ให้เงินทุนหรือให้การสนับสนุนอื่นใดแก่การประท้วงใด ๆ ในประเทศไทย และมิได้สนับสนุนบุคคลหรือพรรคการเมืองใด แต่สนับสนุนกระบวนการประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม